Tuesday, May 25, 2010

Wizard's Road # 69

ประกาศ!! เรื่องด่วนจาก ศูนย์ ฝอช. = ฝรั่งอาจชิ่ง ...ฮ๋าๆๆๆๆ ทิ้งแหลกหลา่ญอีก 20 กว่าจุดครับวันนี้ ไม่สนแล้วว่าพื้นฐานหุ้นบ้านเราจะเป็นอย่างไร บวกกับปัจจัยที่ตลาดนอกพร้อมใจกันทิ้งดิ่งอีก ทุกอย่างเลยช่างเป็นใจจริงๆ ทิ้งๆๆ มีเท่าไหร่พี่หรั่ง พี่กอง พี่ปอบ ถล่มไม่ยั้งอีกวันนึงครับ โหดได้ใจจริงๆ 2 วัน SET ลงไปประมาณ 50 จุด...ซึ้งมั๊ยเพ่!! หรือว่าจะเป็นภาวะตลาดหมีโดยสมบูรณ์แบบครับ? ก็คอยดูกันต่อไปดีกว่า

วันนี้ถือว่าตลาดลงแบบช้าๆ เอื่อยๆ เรื่อยๆ ครับ ไม่หวือหวาเท่าเมื่อวาน แต่ก็ลงมาเยอะพอๆกัน...ประกอบกับราคาทองคำค่อนข้างสวิง ก็เลยเล่นไปทั้งสองอย่างพร้อมๆกันเลย ตาลายเลยคับ ฮุๆๆ

วันนี้ไม่มีอะไรให้แปลกใจเท่าไหร่ เพราะราคาหุ้นถือว่าไม่มั่วมากนัก สมเหตุสมผลดีทีเดียว

กำไรโดยรวมวันนี้ถือว่าดีกว่าเมื่อวานพอสมควรครับ เดือนนี้โอเชเลยครับ ^__^

พรุ่งนี้โชคดีครับ ^__^

6 comments:

  1. prop trade ต่างกับ market maker อย่างไรครับ

    อีกข้อครับ
    ถ้าคุณออกจากprop trade แล้วมาเทรดแบบมีค่าคอม คิดว่าง่ายหรือยากกว่าครับ

    ส่วนตัวผม คิดว่า ถ้าไปเป็นprop trade ผมคงเล่นได้ง่ายกว่า
    เช่น พอเข้า แล้ว ติดลบไป 3-4 tik แล้ว เซ๊นบอกว่า ผิดทางละ
    อยากออกมาก่อน แต่เสียดายค่าคอม เลยรอและหวังอีกหน่อย

    แต่ถ้าผมเป็น pt ผมจะออกทันที ยอมเสย 3-4 tig แล้วเดี๋ยวมาเอาคืนใหม่ก็ได้ แต่ถ้ามีค่าคอม ทั้งไปและกลับ เราต้องได้ถึง 10 tig

    ความคิดของผมถูกไหมครับในแง่ pt

    โดยส่วนตัวที่ผมเล่นหุ้นdaytrade จะไล่ซื้อแล้วขาย เข้าออกเบ็ดเสร็จภายใน 5 นาที หากตัวไหนอยู่เกินนี้ แสดงว่าตัวนั้นจะต้องขายขาดทุนแน่นอน

    หากจะเล่น fex ก็จะต้องเข้าไวออกไว และคงเล่นหลายรอบ
    นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมถึงอยากเป็น pt

    หากไม่ได้เป็น pt ก็คงรอค่าคอมให้ถูกกว่านี้ก่อน

    อยากถามว่าในสายตาของ pt มีค่าคอมกับไม่มีค่าคอม ส่งผลต่อการตัดสินใจมากไหมครับ

    หรือว่า ถ้าเราไม่เก่งจริง ต่อให้เทรดแบบไม่มีค่าคอมก็เจ๊งอยู่ดี
    หากเป็นเช่นนี้จริง ผมก็จะไม่ฝันที่จะเป็น pt
    ที่ผมอยากเป็น pt เพราะคิดว่า การไม่มีค่าคอม และไม่คิดถึงเรื่องค่าคอม ทำให้ผมเทรดแบบไม่มีภาระ และตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะผมเทรดสั้นมากๆ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณครับที่ติดตามและขอบคุณสำหรับคำถามครับ ^__^

    prop trade and market maker แทบไม่ต่างครับ ต่างกันแค่ market maker จะเป็นคนที่ทำให้ราคาของ tfex ไม่ห่างกันจนเว่อรครับ สร้างสภาพคล่องให้เกิดขึ้นในตลาดครับ..รายได้ตายตัว ไ่ม่ได้ค่าตอบแทนอะไรเหมือน prop trade ครับ..

    ส่วนเรื่องที่ pt ได้เปรียบนักลงทุนทั่วไป...อันนี้เมื่อก่อนผมก็คิิดเช่นนั้นครับ แต่...สรุปแ้ล้วคร่าวๆคือ...ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นและเล่นแบบ pt ได้ครับ ย้ำน่ะครับ กล้าการันตีได้เลยว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นได้...มีคนที่เข้ามาลองทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็เยอะน่ะครับ..เนื่องจากสไตล์เทรดของคนคนนั้นไม่เหมาะที่จะเป็น day trader หรือ speculator ครับ...ถ้าคุณคิดว่าตัวเองชอบเล่นเร็วๆ อาชีพ pt ก็เ็ป็นตัวเลือกนึงครับ...แต่ระวังน่ะครับ การเข้าเร็วออกเร็ว ใช่ว่าจะมีข้อดี ข้อเสียก็เยอะครับ....เนื่องจาก อาชีพ pt เป็นอาชีพที่เสี่ยงมากอาชีพหนึ่งสำหรับบริษัทที่มี pt อยู่...คิดง่ายๆน่ะครับ ถ้าเกิด limit loss ต่อวันของผมคือ 2 หมื่นบาท...แล้วเปิดตลาดมา ผมคึกคะนองมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าหุ้นจะดีดแรง..ผมอัดเต็มๆ 10 lots...แต่เผอิญว่าตลาดไม่เป็นอย่างที่คิด...โดนพี่หรั่งตลบหลังโยนทีเดียว 1 จุด...(อันนี้เห็นบ่อยมากๆครับ) แล้วผมอยู่ผิดฝั่ง
    แล้วผมยอมคัทลอส แต่เนื่องจาก bid-offer มีไม่ถึง 10 สัญญาเนี่ยะ...ผมจะทำยังไง? ก็ต้องยอมทิ้งหมดถูกม่ะคับ ไม่สนใจราคา หรืออาจจะรอก็ได้...สมมติว่าราคาทิ้งต่อ..ผมยังดื้อถือ..ก็โดนครับ..หรือยอมคัทลอสเสียไปประมาณ 2.5 จุด...ผมโดนเท่าไหร่ครับ? ประมาณ 3-4 หมื่นบาทน่ะครับ..แค่ 3 นาทีนี้ ผมก็โดนหยุดเทรดทั้งวันแล้วครับ เนื่องจากเกิน limit loss...พอเห็นภาพมั๊ยครับว่ามันเสี่ยงยังไง...ผมมองว่าการเป็น pt นั้น มันช่วยพัฒนาอารมณ์และตรรกะในการเทรดมากกว่าเรื่องค่าคอมครับ...การเข้าออกแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่แล้วผมก็ไม่ได้สุ่มๆเข้าครับ ต้องมีเหตุผลตลอด เพราะไม่งั้นมันก็เหมือนกับเล่นไฮโลว คับ..

    หากอยากจะเป็น pt เพราะแค่เรื่องค่าคอมเนี่ยะ อย่าเป็นดีกว่าครับ เพราะคุณจะไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน...ตัวอย่างมีเยอะครับ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป..มันไม่ง่ายอย่างที่คิดกัน ไหนจะแรงกดกันจากผู้บริหาร จากฝ่ายตรวจสอบเรื่องการเทรดอีก ไหนจะข้อบังคับโน่นนี่นั่นหลากหลายของบริษัท ไหนจะเรื่องการทำกำไรให้ถึงจุดที่ผู้ใหญ่พอใจ เพราะถ้าไม่เนี่ยะ เค้าไล่ออกได้สบายๆ ไม่แคร์เราน่ะครับ..พวกผมก็คือมือปืนรับจ้าง ถ้าทำสำเร็จก็ำทำต่อ ถ้าทำไม่ได้ ก็เลิกจ้าง..ความเสี่ยงมันต่างกันครับ....

    ถ้าอยากเป็น pt เนี่ยะ อยากให้ทำเพราะใจรักตลาดหุ้นครับ อย่าลืมน่ะครับคนเราถ้าไม่ชอบหุ้นจริงๆ นั่งดูหน้าจอหุ้นวันละ 6 ชม. ตลอดวินาที เป็นเวลา 3-5 ปีเนี่ยะ ทำไมได้หรอกครับ จะเบื่อแน่นอน...อยากให้มาทำเพราะใจรัก และรู้ตัวเองว่าเป็น day trading ไม่ใช่ trend following ครับ...ถ้ามั่นใจว่างานนี้แหล่ะคืองานที่เรารัก ผมมั่นใจว่าทุกคนทำได้ครับ...

    แต่...pt ส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายๆกันครับคือ มั่นใจตัวเองสูง, กล้าได้กล้าเสีย (กล้าที่จะ let profit run และกล้าที่จะ cut loss ไม่ว่าจะเสียจนาดไหน ถ้ารู็ว่าผิดทาง ย่อมที่จะไม่ลังเลที่จะเสียไป), ชอบเล่นเกมส์ หรือ poker ประมาณนี้, สมาธิสูง ต้องใจนิ่งเวลาเทรด, ต้องมีตรรกะสูงเช่นกัน.., คิดก่อนทำ ประมาณนี้คร่าวๆครับ..

    ตัวผมเองยังคิดว่า trend follower กับ value investor คือกลุ่มคนที่ระยะยาวแล้วยังไงก็ได้กำไรมากกว่า day trader ครับ ^___^

    สุดท้าย อยากฝากว่า pt ส่วนใหญ่นั้นมีอยู่สิ่งหนึ่งที่อาจจะดีกว่านักลงทุนทั่วไปคือ "วินัยการเทรด" ครับ..อันนี้อันเดียวจริงๆ..ต่อให้คุณมาเป็น pt แต่ไม่มีวินัยการเทรดแล้วยังเทรดแบบตามอารมณ์ตัวเอง เมื่อเสียแล้วไม่คัทลอส แล้วลุ้นหรือสวดภาวนาให้มันกลับมาเท่าทุน...ยังไงก็เจ๊งครับ...พูดเหมือนทำง่ายน่ะครับ..แต่ขอบอกว่าหลายคนที่เจ๊งหรือไม่ได้เป็น pt ก็เพราะขาดคำว่า "วินัยการเทรด" นี่แหล่ะครับ...

    อ้อ เกือบลืม...เล่น tfex นี่ ผมยังเชียร์ให้เล่นแบบถือข้าม 2-3 วันอย่างน้อยครับ...แต่ก็แล้วแต่สไตล์เทรดเดอร์จริงๆครับ

    โชคดีครับ ^__^

    ReplyDelete
  3. อ้อลือไปครับ...แนะนำให้เล่น time frame ที่กว้างขึ้นครับ...หา indicator ที่เราคิดว่า work และเหมาะสมกับตัวเราครับ แล้วทำตามระบบ ผมว่าดีที่สุดแล้วครับ

    ReplyDelete
  4. ขอบคุณมากครับ

    จากเท่าที่ฟังว่า มี pt ผ่านเข้ามาและออกไป

    แสดงว่ามีการเข้าออกกันบ่อยใช่ไหมครับ
    แสดงว่า มีการเปิดกว้างในการรับ pt ใช่ไหมครับ
    ไม่ใช่ชนิดว่าต้องมีเส้น หรือมีประวัติความสามารถที่เลิศหรู เราก็สามารถเดินเข้าไปสมัครได้

    เพราะที่ได้ยินมา ในที่ทำงานของผม
    เขาบอกกันว่า
    pt ที่นี่ไม่ค่อยยอมคุยกับใคร จะอยู่ส่วนตัว เข้าห้องก็ต้องรูดบัตร
    และมีอยู่ ทีมเดียว (แสดงว่าเราคงเข้าไปสุงสิงด้วยยาก และคงไม่รับคนเพิ่ม)
    และเขายังบอกว่าเป็นทีมที่แข็งที่สุดในบรรดาโบรก
    เลยทำให้ผมคิดว่า ทางสำหรับเป็น pt มันช่างยากในแง่การเปิดรับ
    ส่วนการเป็นpt ให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ง่ายอยู่แล้ว
    แต่ผมอยากรู้ว่า โอกาสมันเปิดกว้างในเบื้องต้นให้เราได้เข้าไปลองหรือเปล่าครับ)

    เรื่อง ขยาย frame ผมเห็นด้วยครับ
    เพราะเมื่อวานไปอ่านblogของ คุณoptionist มาเขาช่วยให้ผมคิดในสิ่งที่ไม่เคยคิดเลยคือ การเล่นframe ที่ใหญ่ขึ้นเป็นการลดข้อเสียเปรียบของรายย่อยในเรื่องค่าคอมครับ พอคุณWizard Kid มา confirm ก็ทำให้ อ๋อ..... มากขึ้นครับ และได้มองเห็นภาพเกี่ยวกับงานของpt มากขึ้นเยอะครับ

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
    เป็นประโยชน์กับผมมากครับ

    จะฝึกวินัยเป็นอันดับหนึ่งครับ

    (ฉรกลห)

    ReplyDelete
  5. เท่าที่รู้ pt ส่วนมากไม่มีเส้นครับ ฝีมือล้วนๆ ส่วนการศึกษานั้น ไม่ต้องซีเรียสครับว่าต้องจบที่ดังๆ..เพราะการเทรดไม่ใช่การท่องจำเหมือนตอนเรียนครับ ผมเชื่อว่าคนที่มีประสบการณ์มาก่อนย่อมได้เปรียบกว่าคนที่เรียนเก่ง แต่ไม่เคยเทรดเลยครับ

    ส่วนเรื่อง pt ที่ทำงาน ที่ไม่ค่อยคุยกับใครนั้น...ฮ่าๆ ผมว่าขึ้นอยู่กับนิสัยส่วนบุคคลมากกว่าครับ...อย่างที่ทำงานผม pt ค่อนข้างจะสบายๆครับ เฮฮาไปทั่วเหมือนกัน มีเล่นเกมส์เป็นกิจกรรมอย่างว่าง เหมือนเด็กๆเลยครับ

    โชคดีครับ

    ReplyDelete
  6. ขอบคุณสำหรับความรู้คร้าบ ^^

    ReplyDelete