Friday, July 2, 2010

Wizard's Road # 95

ดำดิ่งลงเหวเลยครับตอนนี้ สำหรับการเทรดของผม...เสียสองวันเทรดติดต่อกัน โดนไปเยอะพอตัวเลยทีเดียวเลยครับ...T__T" Sick Duck! เซ็งเป็ด จริงๆครับ ฮ่าๆๆๆๆ

ตลาดวันนี้ทำเอาหงุดหงิดค่อนข้างมากถึงมากที่สุดเลยครับ...ตลาดนอกลงสองวันไปประมาณ 3-5% แทบทั้งนั้น...น้ำมันก็ร่วงแรงได้ใจ....แต่ตลาดพี่ไทยไม่แคร์สื่อ อยู่ประเทศเดียวในโลกก็ว่าได้ ฮ่าๆๆ....ไม่อยากโทษตลาดครับ ต้องโทษตัวเองที่ดื้อครับ วันนี้ยอมรับว่าดื้อจริงๆ ไม่คิดว่าตลาดหุ้นเราจะปิดบวกได้สวยงาม โดยที่บ้านอื่นลงระเนระนาด เหอๆๆๆ ต้องจำเป็นบทเรียนสำคัญเลยครับ เหอๆๆ

วันนี้มีบทความดีๆ มาให้อ่านกันครับ มีประโยชน์มากๆทีเดียว ลองอ่านกันดูครับ


 “Losers Average Losers”

“คนแพ้ชอบถัวเฉลี่ยขาดทุน คนชนะชอบซื้อเพิ่มเมื่อมีกำไร”
รูปผนังห้องทำงานของ Paul Tudor Jones รูปนี้ได้บอกบางอย่างกับเราเอาไว้แล้ว นั่นก็คือ “คนแพ้ชอบถัวเฉลี่ยขาดทุน หรือ Losers Average Losers” นั่นเอง!
วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค Money Management การบริหารเงินลงทุน จิตวิทยาการลงทุน
paul-tudor-jones
วิธี การเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค Money Management การบริหารเงินลงทุน จิตวิทยาการลงทุน
น่าเสียดายที่ James K. Glassman นักเขียนของหนังสือพิมพ์ในคอลัมน์ Washington Post investing ได้หลงลืมที่จะคิดถึงมันไป จากการที่เขาเคยได้เขียนบทความเอาไว้ว่า
“หากคุณมีหุ้น Enron อยู่ในพอรท์ของคุณ แต่พลาดที่จะขายมันไปที่ราคา 90 ดอลลาร์หรือที่ราคา 10 ดอลลาร์แล้วล่ะก็อย่าได้รู้สึกผิดหรือลำบากใจเลย”
เช่นเดียวกับ Alfred Harrison ผู้จัดการกองทุนของ Alliance Capital Management Holding LP, ซึ่งได้ถือหุ้นของ Enron เอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยเขาได้กล่าวไว้ว่า
“โดยเบื้องต้นแล้ว มันเป็นหุ้นที่มีการเติบโตเป็นอย่างดี เราจึงซื้อถัวเฉลี่ยมันเรื่อยมา”
วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค Money Management การบริหารเงินลงทุน จิตวิทยาการลงทุน
ทั้ง Glassman และ Harrison นั้นทำผิดอย่างมหันต์เลยทีเดียว คุณมักจะพบว่าไม่ใช่แค่คุณจะรู้สึกแย่เพียงเท่านั้น แต่เงินของคุณจะค่อยๆลดลงไปเมื่อคุณทำการถัวเฉลี่ยขาดทุน ตัวของ Harrison นั้นได้ฝ่าฝืนกฎเหล็กของนักเก็งกำไรสไตล์ Trend Following อย่างรุนแรง และที่แย่ไปกว่านั้น ทั้งที่เขาเป็นผู้จัดการกองทุนซึ่งบริหารเงินทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน หลายๆคนนั้น เขากลับยอมรับมันมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการลงทุนอีกด้วย จงจำเอาไว้ว่า หากแนวโน้มกำลังอยู่ในขาลงนั้น มันไม่ใช่โอกาสในการซื้อ! แต่มันคือโอกาสในการขายหรือขาย Short ต่างหาก
โดยภูมิปัญญาที่เฉียบแหลมในการเก็งกำไรนั้น ได้ถูกอธิบายอย่างง่ายๆไว้ในกระดาษที่แปะไว้บนผนังทำงานของ Paul Tudor Jones สุดยอดนักเก็งกำไรคนหนึ่งของโลกเอาไว้แล้ว นั่นก็คือ….
“คนแพ้ชอบถัวขาดทุน… Losers Average Losers”
วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค Money Management การบริหารเงินลงทุน จิตวิทยาการลงทุน
Paul tudorประวัติโดยย่อของ Paul Tudor Jones
เขาเกิดในวันที่ 28 พฤษจิกายน ค.ศ. 1954 ที่มลรัฐ Memphis,Tennessee เขาคือผู้ก่อตั้งกองทุน Tudor Investment Corporation และเขาคือผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันที่ยิ่งใหญ่ซึ่งบริหารเงินทุนกว่าหลายพัน ล้านดอลลาร์ เขามีทรัพย์สินส่วนตัวโดยประมาณอยู่ที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์ และได้ถูกจัดอันดับให้เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกอันดับที่ 369 ในปี 2007 โดยนิตยสาร Forbes โดยจากรายงานล่าสุดนั้น ในปี 2006 เขาทำเงินได้ถึง 750 ล้านดอลลาร์ทีเดียว
วิธีการเล่นหุ้น วิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค Money Management การบริหารเงินลงทุน จิตวิทยาการลงทุน
สไตล์การเก็งกำไรและ ความเชื่อของเขา
จากหนังสือ Market Wizards แนวคิดและความเชื่อของ Paul Tudor Jones ได้ถูกวิเคราะห์เอาไว้ดังนี้
-เขากล้าที่จะสวนกระแสซื้อหรือขายที่จุดวกกลับของตลาด เขาจะพยายามเทรดตามความเชื่อที่เขาคิดจนกว่าเขาจะเริ่มเปลี่ยนใจ โดยเมื่อขาดทุนเขาจะเริ่มลดขนาดการลง ทุนของเขาลงเรื่อยๆ และจะน้อยที่สุดเมื่อการเก็งกำไรของเขาประสบผลแย่ที่สุด
-เขาเชื่อว่าเขาเป็นผู้ที่มักจะเห็นโอกาสในตลาดได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อเขาเริ่มมีไอเดียเกี่ยวกับการลงทุน เขาจะค่อยๆเริ่มลงทุนด้วยความเสี่ยงทีละน้อย จนกว่าที่เขาจะผิดพลาดติดๆกันหรือจนกว่าเขาจะเปลี่ยนแผนหรือความคิดของเขา
-เขาเป็นนักเก็งกำไรสไตล์ Swing Trader หรือเล่นรอบ เขาเชื่อว่ากำไรสูงสุดมาจากการซื้อได้ที่จุดวกกลับของแนวโน้ม และเขามักจะขายหมูบ่อยมาก แต่เขาก็สามารถซื้อหรือขายแถวๆจุดต่ำสุดและสูงสุดได้เช่นกัน
-เขาใช้เวลาในแต่ละวันส่วนใหญ่ในการทำให้เขามีความสุขและผ่อนคลาย เขาจะขาย Position ที่เขาถืออยู่ทิ้งหากว่าเขารู้สึกไม่สบายใจ และไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเริ่มต้นใหม่ กุญแจสำคัญของการเก็งกำไร คือการเล่นเกมรับ ไม่ใช่เล่นเกมรุก
-ห้ามถัวเฉลี่ยขาดทุน และต้องลดขนาดการลงทุนลงเมื่อผลออกมาแย่ และเพิ่มขนาดการลงทุนขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีกำไร
-เขามักตัดขาดทุนตามสัญชาติญาณของเขา โดยหากว่าราคาวิ่งมาถึงระดับนั้น เขาจะขายทิ้งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาไม่เพียงแต่ตัดขาดทุนจากระดับราคาที่กำหนดไว้ แต่จากระยะเวลาที่ถือไว้หากไม่ได้กำไรอีกด้วย
-เขาจะตรวจสอบถึงความเสี่ยงโดยรวมในพอร์ทของเขาอยู่ตลอดเวลา
-เขาเชื่อว่าราคาเคลื่อนไหวนำหน้าปัจจัยพื้นฐาน
-เขาไม่เคยสนใจกับความผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะพึ่งผ่านมาไม่ถึง 3 วินาที แต่เขาจะสนใจว่าเขาจะทำอะไรต่อไปนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป
-อย่าพยายามเป็นฮีโร่ อย่ามีอีโก้หรือทระนงตนเอง ต้องพยายามหมั่นตั้งคำถามกับตัวเอง และความสามารถของตนเองอยู่เสมอ อย่าได้เหลิงคิดไปว่าเราคือสุดยอด และเมื่อไหร่ที่เผลอคิดไป นั่นจะเป็นหนทางสู่ความตายของเรา

 เครดิต: http://mangmaoclub.com/losers-average-losers/

โชคดีครับ

4 comments:

  1. ผมเข้าใจในสถานการณ์ของคุณ ซึ่งขณะนี้ผมก็อยู่ในช่วง drawdown เหมือนกัน ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณอดทน และมีสติ ให้ผ่านช่วงนี้ไปได้

    ReplyDelete
  2. @ คุณ Randomwalk

    ขอบคุณมากเลยครับ...ช่วงนี้ผมก็กำลังนั่งทบทวนอ่านหนังสือประเภท technical analysis กับ market wizards อีกครั้งอยู่ครับ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเทรดของตัวเองให้ดีขึ้น ^__^

    สู้ๆเช่นกันครับ

    ReplyDelete
  3. ผมว่าเป็นการดีที่เราประสบความสำเร็จช้าลง แล้วรู้ว่าอะไรที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ครับ สู้ๆครับ

    ReplyDelete
  4. อันนี้เห็นด้วยเลยครับ...บางทีการที่เราได้อะไรมาเร็วเกินไป มันก็อาจจะไม่รู้คุณค่าเท่ากับสิ่งที่ได้มาด้วยความพยายามอย่างช้าๆและสม่ำเสมอครับ

    ^__^

    ReplyDelete