Friday, April 30, 2010

Wizard's Road # 56

............เปื่อยครับ เลยหยุดเทรด 1 วัน.............

โชคดีครับ รักษาสุขภาพด้วยน่ะครับ

Thursday, April 29, 2010

Wizard's Road # 55

สั้นๆคำเดียว......ตรูอยากตายยยยยย -*-

วันนี้เป็นอะไรที่เซ็งกับตัวเองมากถึงมากที่สุดครับ...มองตลาดได้ถูกทาง แต่ทว่า.....

.....คีย์ออเดอร์ผิดฝั่งครับ......

มารู้ตัวอีกทีก็โดนไปหลาย กระอักเลือก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกกันเลยทีเดียว
พยายามเอาคืนก็แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง ทั้ง Limit loss ที่อยู่ไม่ไกล รวมทั้งความเงียบเหงาของตลาด จึงเอาคืนมาได้ไม่หมดแต่ก็ตีตื้นมาได้พอสมควร เลยโดนไปแค่ 2% ของวงเงินครับ

T____T" ความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยของเทรดเดอร์คือ การส่งคำสั่งผิด!! T____T"

Wednesday, April 28, 2010

Wizard's Road # 54.5 (กาลามสูตร)

พอดีคุณพ่อเค้าโทรมาบอกให้อ่านเรื่อง กาลามสูตร ครับ ระวังสับสนกับ กามคุณ หรือ กามสูตร  
น่ะครับ เห็นว่าคำสอนนี้สามารถนำมาใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้ เลยอยากจะมาแชร์และแบ่งปันครับ
กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกว่า เกสปุตสูตร ก็มี[1]) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการคือ
  1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
  2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
  3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
  4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
  5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
  6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
  7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
  8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
  9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
  10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล
ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ
ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข
เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่
ปัจจุบันแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ 2500 ปีก่อนได้รับการบรรจุเป็นวิชาบังคับว่าด้วยการสร้างทักษะการคิดหรือที่เรียก ว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking) ไว้ในกระบวนการการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยของประเทศพัฒนาแล้ว

ราตรีสวัสดิ์ครับ

Wizard's Road # 54

วันนี้ตลาดเกือบจะคล้ายๆกับเมื่อวานครับ ดีที่ว่ามีแรงขายๆหนักๆในช่วงบ่าย ก็เลยทำให้ตื่นจากภวังค์ มาเทรดได้ ก็เลยทำกำไรเอาคืนที่ขาดทุนเมื่อวานมาได้หมดครับ ^___^ ถือว่าดวงยังดี ผียังคุ้มครับ ไม่งั้นคงนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเป็นแ่น่แท้ ฮ่าๆๆ

ตามรูปการณ์ของสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ สำหรับผมแล้ว ยังลงได้อีกเยอะครับ อย่างเช่นวันนี้ ควรจะลงได้ถึง 2-3% ซะด้วยซ้ำ เนื่องจากไม่มีปัจจัยอะไรเลยที่จะมาพยุงตลาดบ้านเราได้ น้ำมันร่วง หุ้นรอบโลกทิ้งดิ่ง ไหนจะมีผู้เสียชีวิตจากการปะทะกันแถว อนุสรณ์สถานแถวๆดอนเมืองอีก..ก็เลยเอะใจ เอ๊ะ! หรือว่า ฝรั่งขายหุ้น แล้วมา Long Futures เพื่อเป็นการ hedging port ลงทุน...ซึ่งผลก็ออกมาเป็นอย่างที่ิคิดจริงๆครับ...ขายหุ้น long tfex T___T'' รูปแบบการเล่นของ TFEX วันนี้ จึงมีแรงรับตลอดเวลา ทำให้จากที่ควรจะได้กำไรมากกว่านี้ เลยหดหายไปบางส่วน เซ็งจิตครับ

พรุ่งนี้อาจจะเป็นอีกวันที่ตลาดจะเล่นยากครับ ระมัดระวังด้วยน่ะครับ

โชคดีครับ

Tuesday, April 27, 2010

Wizard's Road # 53

วันนี้เจ๊งครับ ตลาดน่าเบื่อสุดตั้งแต่เทรดมา สั้นๆ คือ วันนี้ไม่ใช่วันของผมนั้นเอง โดนไปประมาณ 4% ของวงเงินครับ แต่ก็ไม่ได้เครียดมากมายเพราะผมหยุดเทรดตัวเองไปเลยตั้งแต่บ่าย 3 โมง เนื่องจากรู้ว่า ขืนฝืนตัวเองเทรดต่อ ก็คงจะเสียมากกว่าได้แน่นอน...ยังไงซะ "วินัย" สำหรับเทรดเดอร์ถือว่าสำคัญครับ ถ้าคิดว่าเล่นไม่ได้ ก็อย่าฝืน เมื่อถึงจุดที่เราตั้งไว้ ก็ต้องทำตามครับ อย่าฝืนเช่นกัน..

วันนี้ทำท่้าจะไม่สบายอีกแล้ว ขอตัวกลับบ้านก่อนน่ะครับ

โชคดีครับ

Friday, April 23, 2010

Wizard's Road # 52

ตลาดวันนี้ ค่อนข้างน่าเบื่อ หรือเรียกได้ว่า "เทรดบนเตียงนอน" ครับ คือ สามารถที่จะงีบหลับหรือหลับยาวๆได้จริงๆ ฮ่าๆๆ บางคนอาจจะชอบสไตล์วันนี้ แต่สำหรับผมแล้ว เกลียดมากเลยครับ เล่นแทบไม่ได้จริงๆ มีให้เล่นจริงๆจังๆ แค่ 4-5 ครั้งเอง..ได้ๆเสียๆ เฮ้อ แสนจะเหนื่อยใจ

กำไรได้มา 2% ของวงเงินเองครับวันนี้ แต่ก็ัยังดีกว่าปิดสัปดาห์ด้วยขาดทุนครับ เหอๆๆ

สรุปทั้งอาทิตย์นี้อาทิตย์เดียว ทำกำไรรวมไปประมาณ 52% ของวงเงินทั้งหมดครับ ค่อนข้างแฮปปี้ครับกับผลงานอาทิตย์นี้ ถือว่าดีที่สุดตั้งแต่เป็น prop trade มา 42 วันเลยครับ ^___^

วันจันทร์นี้ผมไม่ได้เทรดน่ะครับ ดังนั้นการอัพเดต ก็คงไม่เกิดขึ้น นอกจากว่าจะพบเจอบทความดีๆ เผื่อมาแบ่งปันกันครับ

โชคดีครับ ดูแลตัวเองดีๆน่ะครับ

Thursday, April 22, 2010

Wizard's Road # 50 and 51

เมื่อวานเผลอหลับปุ๋ย สลบไสลครับ เหนื่อยมากๆจากการเทรด..

เลยขออัพเดททีเดียวพร้อมกันทั้งของเมื่อวานและวันนี้ครับ

เมื่อวานตลาดถือว่าเล่นง่ายและสนุกต่อการเทรดเป็นอย่างยิ่งครับ เลยได้กำไรไป 25% ของวงเงิน...แต่!! วันนี้ผมโดนหยุดเทรดตั้งแต่ 11 โมงเช้าครับ เนื่องจากทำขาดทุนไปเกินจุดที่บริษัทกำหนดไว้ครับ T___T" แย่เลย...ว่างจัด เลยมีเวลามาเขียนเล่าเรื่องได้ ฮ่าๆๆ...

ถามว่าขาดทุนแล้วเครียดมั๊ย? เครียดอยู่แล้วครับ ยังไงผมก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งครับ ยังไงก็ไม่อยากเสียเงินหรอกครับ แต่ก็จะพยายามคิดซะว่าช่วง 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมทำได้ค่อนข้างเยอะ เกินเป้าหมายที่คิดไว้ ยังไงก็ต้องมีวันที่ไม่ใช่วันของเรา แล้วเผอิญว่าวันนี้คือวันนั้นจริงๆ ก็เลยน่ะ...let it go ครับ..จะได้ไม่ต้องเครียดมากมาย...เพราะยังไงตลาดก็มีให้เล่นแทบทุกวัน อย่าไปกลัว สู้ต่อไป ทาเคชิ!! ฮ่าๆๆๆๆ

ขอตัวนอนงีบครับ...ดูตลาดไปแล้วมือไม้สั่น อยากเทรด แต่เทรดไม่ได้ ฮือออออ

Tuesday, April 20, 2010

Wizard's Road # 49

สดชื่นซาบซ่า ต้องพี่กองเท่านั้น....ผีฝรั่งหลอกครับ!! พี่กองโดนหลอกแหงๆ ฮ่าๆๆ

วันนี้ตลาดบวกเขียวขจี ดีดกันกระจาย หายบ้ากันไปเลยครับ...

ช่วงเช้าฝรั่งก็ซื้อตั้ง 1,500 ล้านบาท...แต่ไหงกลับมาขายจนเหลือ 54 ล้านบาทได้เนี่ยะ เก่งจริงๆครับ นับถือๆๆๆ...ส่วนรายย่อยทั้งหลายก็คงรวยๆกันไปบ้าง ไม่มาก็น้อย เล่นขายสวนพี่กองตลอดทางแบบนี้ น่าชื่นใจครับ...^____^

วันนี้ไม่มีอะไรมากมายครับ แค่ TFEX ค่อนข้างจะมีไม้มั่วๆมาผสมอยู่หลายจังหวะ ก็เลยได้บ้างเสียบ้าง หุหุ แต่ก็ได้ไป 11% ของวงเงินเป๊ะๆเลยครับ..^___^ ว่าแล้วขอตัวไปฉลองกับสุดที่เลิฟก่อนน่ะครับ ไปช้าอาจจะโดนตีหัวเลือดอาบได้ ฮ่าๆๆๆ

พรุ่งนี้ดูแล้ว ถ้า Dow Jones ดีดไม่แรงหรือปิดไม่สวย รวมทั้งน้ำมันยังไม่กระเตื้อง ก็อาจจะเจอแรงขายได้น่ะครับ ยังไงๆก็ระวังกันหน่อยเด้อครับเด้อ ^___^

Monday, April 19, 2010

Wizard's Road # 48

โอ้โหหห ตลาดหุ้นหรือหุ้นปั่นครับเนี่ยะ...เช้าโดนตบไป -21 จุด...บ่ายดีดกลับเหลือ -2 จุดกว่าๆ แล้วก็มาปิด -9 จุดเศษๆ ได้ใจวัยรุ่นจริงๆ ที่สำคัฐพี่หรั่งกลับมาซื้ออีกครั้งครับพี่น้องคร้าบบบบบบบบบบ สัญญาณจะเปลี่ยนเป็นขึ้นอีกรึเปล่าก็ยากที่จะคาดเดาจริงๆ

.....Whatever will be, will be...^___^.....

การเทรดส่วนตัววันนี้ ค่อนข้างไปได้ด้วยดีครับ win-lose ratio ค่อนข้างสวย กำไรค่อนข้างแจ่ม เหอๆๆ สงสัยเพราะได้ไปพักผ่อน ชา์ร์ตพลังงานมาช่วงปีใหม่ไทยหลายวัน สมองกับร่างกายก็เลยสดชื่นกระปรี้กระเปล่าจริงๆ...สุขภาพที่ดีพร้อมจิตใจที่แหล่ม คือสิ่งสำคัญของเทรดเดอร์เช่นกันน่ะครับ...^___^

Win-Lose วันนี้ประมาณ 75%"....กำไรได้ไปประมาณ 18.5% ของวงเงินครับ...^__^

วันนี้ตลาดถือว่าค่อนค่อนสนุกที่จะเทรด แต่ค่อนข้างยากที่จะเปิด-ปิดสถานะครับ เพราะราคาถือว่าสวิงเร็วและแรงมากๆ ถ้าผิดทางก็เหมือนคนผิดใจกัน มีแต่เสียกับเสียครับ T__T"

โชคดีมีชัยครับ

Saturday, April 17, 2010

Wizard's Road # 47

สบาย สบาย กับเช้าวันเสาร์อันแสนสุข หุหุหุ

ตอนแรกว่าจะเริ่มเขียนอีกทีในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่มันอดไม่ได้ครับ เห็นตลาดสวิงกิ้งกันได้ใจแบบนี้ ขอแจมหน่อยเต๊อะ...อิอิ

เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิ่งแรงกว่า 2 ดอลลาร์ จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ทรุดลงฮวบฮาบจนก่อความกังวลต่ออุปสงค์ ขณะที่วอลล์สตรีท ก็ปิดลบอย่างหนักหน่วง หลัง โกลด์แมนแซคส์ ถูกกล่าวหาฉ้อฉลนักลงทุน จุดชนวนความวิตกต่อการเข้าปราบปรามบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตราสารหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นแกนกลางการล่มสลายของภาคการเงิน

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 125.91 จุด (1.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,018.66 จุด แนสแดก ลดลง 34.43 จุด (1.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,481.26 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 19.54 จุด (1.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,192.13 จุด

โอ้วววว !! เห็นข่าวนี้เมื่อตื่นมา...นึกในใจเลยครับ "ไอ๋หย๋า ชิ หาย แล้ว" ฮ๋าๆๆๆ แบบนี้ตลาดรอบโลกรวมถึงพี่ไทยคงต้องพร้อมใจกันทิ้งดิ่งอีกแน่ๆในอาทิตย์หน้า.....แต่สำหรับ SET บ้านเรานั้นต้องรอดูแนวรับที่แข็งแกร่งตรง 720 - 730 จุดก่อนน่ะครับ...ถ้ารับได้ก็อาจจะมีการดีดเด้งดึ๋งๆได้ต่อ...แต่หากหลุดหล่ะก็ ตัวใครตัวมันแน่นอน 680 จุด อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม...อย่าคิดว่าฝรั่งจะกลับมาซื้อเยอะๆ อีกง่ายๆ น่ะครับ บทเรียนในอดีตมีแล้ว ถ้าซื้อติดต่อกันได้ 20-30 วัน ทำไมจะขายติดต่อกันเป็นอาทิตย์ๆ ไม่ได้หล่ะ...ถ้าหุ้นมันจะเป็นขาลงก็ต้องทำใจยอมรับให้ได้ อย่าฝืนครับ...ผมก็เคยเจ๊งและได้บทเรียนครั้งสำคัญมาแล้วหนนึง ก็เพราะคิดว่าเดี๋ยวหุ้นก็ขึ้น...ที่ไหนได้...ไปแอ่วเหนือซะเกือบปี เจ๊ง! T____T"

ยังไงช่วงนี้ก็ติดตามสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิดน่ะครับ โชคดีครับ

Friday, April 16, 2010

Wizard's Road # 46

Live from Phuket ^___^

วันนี้ไม่ได้ไปทำงาน แต่อดใจไม่ได้ที่จะต้องเช็คความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นให้ได้...เผื่อจะได้รู้ว่าวันนี้ผมได้พลาดโอกาสทำเงิน (เอ๊ะ! หรือเสียเงินดี) ไปเท่าไหร่....แล้วก็เป็นอย่างที่คิด...พลาดไปเยอะพอสมควรครับ ฮ่าๆๆๆ

คิดในแง่ดีดีกว่า...หากผมเทรดวันนี้ ผมอาจจะเสียก็ได้ กับ ตลาดมีให้เล่นเป็นร้อยๆวัน อย่าเสียดายวันนี้เลย ฮ่าๆๆๆ....

อากาศช่วงนี้มันช่างร้อนได้ใจวัยรุ่นจริงๆครับ...อะไรก็ร้อนแรง ไม่ว่าจะหุ้น การเมือง เฮ้ออออ...

วันจันทร์นี้ สู้ๆๆ ครับ

Monday, April 12, 2010

Wizard's Road # 45

เหนื่อยสุดๆครับวันนี้...ตลาดหุ้นเปิดมาก็ลงกระจายตั้งแต่แรก ทำให้ราคาค่อนข้างสวิงนิ่งๆอยู่ช่วงนึง สุดท้ายก็ทิ้งกระหน่ำ...ผมก็ตามไปเต็มๆ กะว่าลงครั้งใหญ่แน่นอน...ที่ไหนได้ ขอด่าหน่อยครับ...เจ้ามือที่ไหนก็ไม่ทราบตอนนั้น SET ทิ้งทีเดียว 6-7 จุด... TFEX กับลงแค่ 2 จุด!! เกมส์เปลี่ยนเลยครับ...ไม่ว่าจะลงแรงแค่ไหน ต้องมีไม้ใหญ่ๆรอรับของตลอดเวลา ซึ่งสไตล์แบบนี้ ผมไม่ถนัดเลยครับ ฮ่าๆๆๆ ง่ายๆคือ ผมอ่อนเอง อิอิ

ทำไปทำมา กำไรจาก 10% ดันมาเหลือ 3% ของวงเงินแทนครับ เฮ้อออออ

ผมจะกลับมาอัพเดตอีกครั้งก็วันจันทร์หน้าเลยน่ะครับ จะขอลาหยุดยาวเลย อิอิ กลับบ้านเที่ยวทะเลสบายใจกว่าเยอะครับ..สังคมบ้านเราตอนนี้ ก็ไม่ทราบว่าจะหาข้อเท็จจริงและความจริงได้จากที่ไหน...ต่างฝ่ายต่างสาดเทกันไป...เลือดสาดดดดด!! พี่หรั่งเลยบอก ไอทนไม่หวายแล้ว สาดเลือดใส่ตลาดหุ้นไทยเต็มๆครับ เหอๆๆๆ

โชคดี และ สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ^___^

Sunday, April 11, 2010

Wizard's Road # 44.5 (รวบรวมทุกวิกฤตการณ์ของ "ตลาดหุ้นไทย")

วิกฤตการณ์ของตลาดหุ้นไทย (2522-ปัจจุบัน)

วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 ตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย
(ชื่อภาษาอังกฤษในขณะนั้นคือ The Securities Exchange of Thailand)
ได้เปิดทำการซื้อขายขึ้นอย่างเป็น
ทางการครั้งแรกและได้ทำการเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษเป็น "The Stock Exchange
of Thailand" (SET) เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2534


ปี 2522-กลางปี 2525 วิกฤตเศรษฐกิจ/วิกฤติราคาน้ำมัน


ในช่วงต้นปี 2522 ได้เกิดวิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน
ส่งผลให้เกิดอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากกลุ่มโอเปคได้ขึ้นราคาน้ำมันถึง 30%

นอกจากนี้ยังมีปัญหาการขาดดุล บัญชีเดินสะพัดในระดับสูงมาก
ภาวะเงินตึงตัวทวีความรุนแรงการลงทุนภาคเอกชนซบเซาอย่างหนัก
การขาดดุลการค้ายังเป็นผลให้
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศร่อยหรอลงจนถึงระดับวิกฤติ ในที่สุดรัฐบาล
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต้องตัดสินใจลดค่าเงินบาทลง 9% เมื่อวันที่ 1 ก.ค.
2524

ในช่วงต้นปี 2522 ยังได้เกิดวิกฤตการณ์ "ราชาเงินทุน"
ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน
วิกฤติที่รุมเร้าทั้งภายในและภายนอกทำให้ตลาดหุ้นซบเซายาวนานถึง 4 ปี
ปริมาณการซื้อขายหุ้นทั้งปีหดหายไปอย่างรวดเร็วจาก 22,533 ล้านบาท ในปี
2522 เหลือเพียง 2,898 ล้านบาท ในปี 2524
นักเล่นหุ้นทุกคนอยู่ในอาการที่สิ้นหวัง

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตกต่ำจากระดับ 259.82 จุด เมื่อต้นปี 2522 เหลือ
149.40 จุด ณ ปลายปี ในปี 2523 ดัชนียังคงตกต่ำต่อเนื่องปิดที่ 124.67 จุด
และลดลงเหลือ 106.62 จุดเมื่อปลายปี 2524 คิดเป็นการปรับตัวลงเกือบ 60%

ปี 2526-2528 วิกฤติทรัสต์ล้ม/ลดค่าเงินบาท

หลังวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ
ข่าวสถาบันการเงินมีฐานะง่อนแง่นก็เกิดขึ้นมาตลอด
เริ่มจากข่าวการสั่งถอนใบอนุญาตราชาเงินทุนเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2522
หลังจากนั้นตลาดหุ้นก็ไม่ว่างเว้นจากข่าวการสั่งปิดทรัสต์ แชร์ล้ม
แบงก์มีฐานะการเงินอ่อนแอ

รวมแล้ววิกฤตการณ์ของบริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ทำให้บริษัทต่างๆ ถูกถอนใบอนุญาตในช่วงปี 2526-2528 มากถึง 20 บริษัท

และในเดือนพฤศจิกายน 2527 ได้มีการประกาศลดค่าเงินบาทลงอีก 17.3%

ตลาดหุ้นไทยในช่วงปี 2526-2528 ทรงตัวยาวนานถึง 3 ปีเต็มๆ ดัชนีในปี 2526
ปิดที่ 134.47 จุด มีปริมาณการซื้อขายทั้งปี 9,323 ล้านบาท ในปี 2527
ดัชนีปิดที่ระดับ 142.29 จุด วอลุ่มการซื้อขายทั้งปีกระเตื้องขึ้นเป็น
10,595 ล้านบาท และในปี 2528 ดัชนีปิดที่ 134.95 จุด มีวอลุ่มทั้งปี
15,333 ล้านบาท

ปี 2530 เหตุการณ์"Black Monday"

วิกฤตการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดของตลาดหุ้นไทยอีกครั้งหนึ่ง ก็คือ เหตุการณ์
"วันจันทร์ทมิฬ" (Black Monday) วันที่ 19 ตุลาคม 2530
ส่งผลให้ตลาดหุ้นในตลาดสำคัญๆ ของโลกปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง และรวดเร็ว

วิกฤตการณ์ครั้งนี้มีจุดกำเนิดที่ตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาดิ่งลงมากที่สุดใน
ประวัติศาสตร์ 508.32 จุด หรือคิดเป็น 22.60% มาปิดตลาดที่ระดับ 1,738.74
จุด

เพียงวันเดียว ความมั่งคั่งของคนอเมริกันหายไปประมาณ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับตลาดหุ้นไทยในวันนั้น ดัชนีปรับตัวลดลง 36.64 จุด หรือ 8% จากระดับ
459.01 จุด ในวันที่ 19 ต.ค.2530 มาปิดต่ำสุดที่ 243.97 จุด ในวันที่ 11
ธ.ค. 2530

ตลาดหุ้นไทยซบเซาอยู่ประมาณ 2 เดือน ปรับตัวลดลงประมาณ 46%
ก่อนที่จะฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะมีการจัดตั้งกองทุนร่วมพัฒนา
(อายุโครงการ 6 ปี) มูลค่า 1,000 ล้านบาท เริ่มเข้ามาซื้อหุ้นเมื่อวันที่
26 พ.ย. 2530(1987)


ปี 2533 สงครามอ่าวเปอร์เซีย

เมื่อตลาดหุ้นไทยกลับมาบูมในปี 2531-2532 ในปีถัดมา 2533
ได้มีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างมาก
คือเหตุการณ์อิรักบุกเข้ายึดครองคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2533
ซึ่งก่อให้เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียอย่างเต็มรูปแบบ

ก่อนหน้านั้น ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นไปซื้อขายสูงสุดที่ระดับ 1,143.75
จุดเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2533 แต่เพียง 3 สัปดาห์ ดัชนีดิ่งลงมากถึง 39%
ต่ำสุดที่ระดับ 695.81 จุดก่อนที่จะกระเตื้องดีขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม


ตลาดหุ้นไทยต้องตกอยู่ในพะวังและความไม่ชัดเจนของสงครามถึง 3 เดือนเต็ม
กว่าที่ดัชนีจะทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 544.30 จุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2533
คิดเป็นการปรับตัวลดลงของดัชนีทั้งสิ้น 598 จุด หรือ 52%
(จุดสูงสุด-จุดต่ำสุด)

ปี 2535 เหตุการณ์"พฤษภาทมิฬ"

เหตุการณ์พฤษภาทมิฬเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคม 2535
เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ตลาดหุ้นไทยต้องสะดุดตัวเองอย่างแรง
เหตุการณ์นี้สืบต่อมาจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534
รสช.เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ตลาดหุ้นตกไปทันที 40.63
จุด และวันถัดมาตกลงอีก 57.40 จุด

จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม 2535 ก็เกิดเหตุความไม่สงบขึ้น
ครั้งนี้เกิดเหตุการณ์เสียเลือดเสียเนื้อของประชาชนจำนวนมาก
ตลาดหุ้นตอบรับทางลบอย่างรุนแรง ดัชนีตกลงทันที 65 จุดเหลือเพียง 667.84
จุด ก่อนจะดีดกลับ 61 จุดในวันที่ 21 พ.ค. 2535

หลังเหตุการณ์ความไม่สงบตลาดหุ้นก็ตกอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก
วอลุ่มเฉลี่ยต่อวันลดลงจาก 7,337 ล้านบาท ในไตรมาสแรกเหลือเพียง 4,871
ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2

เมื่อเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติในเดือนกันยายน 2535
ในช่วงนี้เองก็ปรากฏชื่อของ "เสี่ยสอง" หรือนายสอง วัชรศรีโรจน์
เข้ามาทำเงินจากวิกฤตการณ์ตลาดหุ้น
และตลาดกลับมาคึกคักจนลืมอดีตเหตุการณ์นองเลือดลงอย่างสิ้นเชิง

ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2535 คณะกรรมการ ก.ล.ต.
มีมติให้ดำเนินการกล่าวโทษเสี่ยสอง กับพวกในข้อหาปั่นหุ้นธนาคารกรุงเทพฯ
พาณิชย์การ หรือบีบีซี ทันทีที่ตลาดหุ้นเริ่มมีอาการซวนเซ ในวันที่ 19
พฤศจิกายน 2535 กระทรวงการคลังก็ประกาศจัดตั้งกองทุน 5,000 ล้านบาท
โดยใช้เงินจากธนาคารกรุงไทยเข้ามาพยุงหุ้น
และยังขอความร่วมมือจากโบรกเกอร์ 40 รายลงขันจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นอีก
10,000 ล้านบาท เข้ามาซื้อหุ้น


ปี 2540 ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท

ก่อนที่จะประกาศลอยตัวค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540
ตลาดหุ้นตกต่ำอย่างไม่โงหัวขึ้นเลย เป็นการตีตั๋ว "ขาลง" ขาเดียว
มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2539 จากระดับ 1,410.33 จุด
ดิ่งลงมาตลอดต่ำสุดที่ระดับ 457.97 จุด ในเดือนมิถุนายน 2540 ลดลง 953 จุด
หรือ 67% ภายในระยะเวลา 17 เดือน

นับเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดของตลาดหุ้นไทย
เพราะเป็นการตกต่ำที่หนักหน่วงยาวนาน
ต่างจากวิกฤตการณ์ทุกครั้งที่ตกต่ำเพียงไม่กี่เดือนก็มักจะฟื้นตัว
และเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติ
ศาสตร์เศรษฐกิจของไทย

เริ่มจากปัญหาหนี้เสียในระบบสถาบันการเงิน
จนผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ขาดความเชื่อมั่น ค่าเงินบาทถูกโจมตีอย่างหนัก
แบงก์ชาติสู้จนเงินหมดหน้าตัก ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540
จึงตัดสินใจปล่อยให้ค่าเงินบาทลอยตัวแบบ Managed Float
รวมทั้งต้องประกาศปิดสถาบันการเงิน 56 แห่งอย่างถาวร

ตลาดหุ้นตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ดัชนีดิ่งลงไปสู่จุดต่ำสุดที่ระดับ 207
จุดในเดือนกัยยายน 2541 เป็นช่วงขาลงยาวนานที่สุดถึง 33 เดือน นับแต่ต้นปี
2539 ดัชนีปรับตัวลดลง 1,203 จุด คิดการปรับตัวลดลง 85% มูลค่าตลาดรวม
(Market Capitalization) ลดลงจาก 3,969,804 ล้านบาท ลดลงเหลือเพียง
759,451 ล้านบาท

ความมั่งคั่งของคนไทยหายวับไปต่อหน้าต่อตา 3,210,353 ล้านบาท

ปี 2544 เหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐ

เหตุการณ์บึ้มสหรัฐครั้งนั้น สร้างความเสียหายค่อนข้างมาก
แม้ว่าเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด
จะเกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา แต่วิถีความเสียหายกลับแผ่ไปทั่ว
มาร์เก็ตแค็ปของตลาดหุ้นไทย 6 วันทำการ (11-20 ก.ย.2544) สูญไปแล้วกว่า
2.51 แสนล้านบาท
เป็นความเสียหายชนิดเฉียบพลันอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

ก่อนเกิดโศกนาฏกรรมในสหรัฐตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 330 จุด มีมูลค่าตลาดรวม
(มาร์เก็ตแค็ป) อยู่ที่ 1.607 ล้านล้านบาท
หลังเกิดเหตุการณ์ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาปิดที่ระดับ 266 จุด
คิดเป็นการปรับตัวลดลงประมาณ 19% ตลาดหุ้นซึมอยู่นานกว่า 2 เดือน
ก่อนจะดีดตัวกลับ และเป็นขาขึ้นครั้งใหญ่


ปี 2549 มาตรการแบ็งค์ชาติ 108 จุด

เป็นเหตุการณ์แบ็งค์ชาติออกมาตรการสะกัดกั้นเงินบาทแข็ง
เป็นผลจากความกังวลที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประกาศใช้มาตรการสำรอง
30% สำหรับการนำเข้า เงินทุนระยะสั้น

การประกาศออกมาในเย็นวันที่ 18 ธค 2549 หลังตลาดหุ้นปิดแบ็งค์ชาติประกาศออกมาตรการ 30% หุ้นปิด ลบ 5.74 จุด

จากนั้นเช้าวันที่ 19 ธค 2549 ตลาดเปิดหุ้นดิ่งทันที ลบกว่า100จุด
ก่อนจะหยุดพักการซื้อขาย 30 นาที และทำการซื้อขายต่อราวเที่ยงกว่าๆ
ตลาดปิดภาคเช้า ลบ 83 จุด

ในภาคบ่ายตลาดรูดลงไปมากสุดถึง -142.63 จุด และปิดตลาดที่ระดับ 622.14 ลดลง 108.41 จุด หรือ 14.84%

ซึ่งดัชนีปิดต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี นับจากระดับ 621.57 เมื่อ 28 ต.ค.47
ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการสกัดเก็งกำไรค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย
ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมามาก โดยต้องหยุดพักซื้อขายชั่วคราว
30 นาทีระหว่าง 11.29-11.59 น. เนื่องจากดัชนีปรับลงถึงระดับ 10%


ณ. วันนั้นวันเดียวเงินในตลาดหุ้นลดลงกว่า 5แสนล้านบาท


ปี 2551 วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์


วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์รุนแรงใกล้ตัวและลามมาเร็วกว่าที่คาดกันไว้มาก
จากโลกซีกอเมริกาลุกลามไปสู่ยุโรป เข้าถึงเอเชีย
และวิ่งต่อไปยังตะวันออกกลาง

เรียกว่าวินาทีนี้ทุกส่วนของโลกโดนพิษวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์กันถ้วนหน้า
ความเชื่อมโยงถึงกันเหมือนดังปัญหาที่เกิดขึ้นกับตลาดเงินและกระทบถึงตลาด
ทุน

ซึ่งในวันนั้นเข้าขั้นวิกฤติหนักไม่แพ้การล้มละลายของสถาบันการเงินหลายแห่ง
ในต่างชาติ อันมีต้นเหตุจากปัญหาซัพไพร์ม

ความจริงนักลงทุนต่างชาติจับสัญญาณได้ถึงปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้น
ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2551 ต่างชาติเริ่มเทขายหุ้นในภูมิภาคเอเชียทิ้ง
เพื่อนำเงินกลับไปพยุงบริษัทแม่ที่ใกล้ล้มละลาย
บางส่วนก็นำไปเติมสภาพคล่องกรณีที่เกิดการไถ่ถอนหน่วยลงทุนก่อนกำหนด
เพราะความวิตกกังวลในปัญหา เรียกได้ว่าทำทุกวิธีทางเพื่อความอยู่รอด
แต่ในท้ายแล้วการเทขายหุ้นออกไปก็ยังไม่สามารถรั้งชีวิตบางบริษัทได้จนต้อ
ปล่อยให้ล้มละลายไป

ความแรงของการเทขายยังมีอย่างต่อเนื่องเพราะความวิตกจากนักลงทุน
โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 51
ตลาดหลักทรัพย์หยุดทำการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวเนื่องด้วยดัชนี
ราคาหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงจากดัชนีราคาปิดวันทำการก่อนหน้า 43.29 จุด
คิดเป็น 10.00% อาศัยอำนาจตามความในข้อ 15
ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การซื้อขาย
การชำระราคาและการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2542
ซึ่งกำหนดให้หยุดทำการซื้อขายหลักทรัพย์

การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยดังกล่าว
ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องประกาศใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์
เพื่อพักการซื้อขายหุ้นชั่วคราวในช่วงเดือนต.ค.ปีนั้นถึง 2 ครั้ง
หลังดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรง 10% ในวันเดียว

ปี 2551 เป็นปีที่มีข่าวหนาหู
และปรากฏเป็นจริงที่สถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาล้มระเนระนาด ต้องเพิ่มทุน
ถูกเทกโอเวอร์ และล้มละลาย จนมาถึง “เลแมน บราเดอร์ส” และ “เอไอจี”

ตลาดหุ้นของไทยได้ซึมซับรับพิษไปอย่างเบ็ดเสร็จมาแตะในระดับต่ำสุด 380.05
จุด ในวันที่ 26 เดือนพฤศจิกายน ทั้งที่ในต้นปีเดียวกันนั้น ณ วันที่ 2
มกราคม 2008 ดัชนีตลาดหุ้นปิดที่ 842.97 จุด เป็นดัชนีที่ลดลงต่ำพอๆ กับปี
2532และเป็นดัชนีที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540


จบข่าวครับ...^____^

Wizard's Road # 44 (ประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย)

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อคืนวานนี้ครับ...ยังไงก็คนไทยด้วยกันทั้งนั้นครับ...ถ้าเป็นพี่น้องคุณ พ่อแม่คุณ หรือคนที่คุณรักต้องมาประสบเหตุอย่างนี้บ้าง จะเป็นอย่างไร อย่ามาทับถมซ้ำเติมกันน่ะครับ...LOVE THAILAND, NO MORE TRASH TALKING ครับ!!

เข้าเรื่องตลาดหุ้นกันต่อ..พอดีมีเพื่อนๆ พี่ๆที่ที่เล่นหุ้นได้สอบถามขอความคิดเห็นของผมว่าพรุ่งนี้ตลาดจะเป็นอย่างไร ผมก็คงตอบให้มันแม่นยำไม่ได้หรอกครับ เพราะตลาดหุ้นก็เหมือนเกมส์ฟุตบอลครับ มีพลิกล็อคกันได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ

วันนี้พอดีอ่านเจอบทความที่คิดว่าน่าจะพอเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนทุกท่านครับ
โดยผมขอเรียกหัวข้อนี้ว่า

..........."ประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย".............


พฤษภา 35

วันที่ 17 วันอาทิตย์ 18 หยุด (17-18 เหตุการณ์นองเลือด) วันที่ 19 เปิด -65 จุด 

 
 6 ตุลา 2519 เกิดการสังหารหมู่ และมีการรัฐประหารโดยคณะปฏิรูปการปกครอง 
 เนื่องจากตอนนั้น Mkt Cap ของ SET ยังเล็ก อาจเป็นไปได้ว่าเกิดการแทรกแซงราคาได้ หาก คป. ต้องการ



เครดิต: http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9112798/I9112798.html

 จะเห็นได้ว่า ทุกเหตุการณ์สำคัญๆในอดีตนั้นมีผลต่อตลาดหุ้นไทย ในวันถัดมาแทบจะทั้งสิ้น ไม่ว่าจะขึ้นแรงมากๆ ไปจนถึงร่วงแรงสุดๆ...ก็พิจารณากันดูน่ะครับ

พรุ่งนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ ดูแลพอร์ทลงทุนตัวเองกันดีๆน่ะครับ Money Management สำคัญที่สุดครับ...ตลาด TFEX มันคือ Zero-Sum Game ครับ มีคนได้เยอะก็มีคนเจ๊งเยอะครับ

โชคดีมีชัยครับ

Saturday, April 10, 2010

Wizard's Road # 43

สหวีดัด สวัสดีครับ...วันนี้อัพเดทซะเกือบตี 1 พอดีมีงานหลวงต้องไปทำครับ ฮ่าๆๆ เลยกลับมาซะดึกเลย

วันนี้ตลาดถือว่าสวิงน้อยกว่าเมื่อวานครับ..มีการโยนแรงๆช่วงเปิดตลาด แต่ก็สามารถรีบาวน์กลับมาปิดในแดนบวกได้อย่างสง่างาม...แต่ที่พลิกล็อคโลกแตกก็คือ...พี่หรั่งขายอีกแล้วครับพี่น้องคร้าบ..เหอๆ สงสัยงานนี้จะมีเทศกาลรายย่อยเที่ยวดอยกันอีกแน่ๆ ระวังในการเทรดดีๆน่ะครับ ช่วงนี้อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ครับ โชคดีกันถ้วนหน้าครับ

วันนี้การเทรดของผมเองค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจครับ ถือว่าทำได้ดีกว่าเมื่อวานเยอะเลยครับ จำนวน win/loss ratio ก็ประมาณ 70% ครับ งงเหมือนกันว่าเทรดไปได้ยังไง อาจจะเป็นเพราะผมโชคดีด้วยครับ แหะแหะ...ส่วนเรื่องกำไรขาดทุนนั้น วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ทำกำไรได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของผมตั้งแต่เทรดมาครับ..ได้ไปประมาณ 20.1% ของวงเงินครับ ^___^

จากการเทรดวันนี้จึงทำให้ได้เรียนรู้ว่า ถ้าเทรดเดอร์สามารถลบเลือนความผิดพลาดของการเทรดในอดีตได้ และนำมันมาเป็นบทเรียนในการเทรดครั้งต่อไป เทรดเดอร์คนนั้นก็จะไม่มีวันที่จะพลาดในเรื่องเดิมๆอีกครับ ถ้าผิดพลาดอีกก็คงผิดพลาดได้น้อยครั้งทีเดียว...

.."จงนำอดีตที่ผิดพลาด มาเป็นบทเรียนในอนาคต"..

ข่าวดีอีกอย่างคือ ผมได้รับการโปรโมตจาก level 1 ให้เป็น level 2 แล้วครับ การเพิ่ม level ของเทรดเดอร์ที่บริษัทผม ก็หมายถึงการได้ส่วนแบ่งจากการทำกำไรมากขึ้นครับ ^____^

เหลืออีกแค่ level เดียวเท่านั้น ผมก็จะได้ไปอยู่ในระดับเดียวกับกลุ่มเทรดเดอร์ที่ผมยกย่องว่าเป็น "เซียน" ในการเทรดครับ...อาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีผมก็ยอมครับ เพราะมันคุ้มค่าจริงๆถ้าสามารถไปยืนอยู่ ณ จุดนั้นได้ ^____^

สุดสัปดาห์ โชคดีมีชัยครับ

Thursday, April 8, 2010

Wizard's Road # 42

โอ๊ะ โยะ โย๋ววว...แรงครับแรง แดงครับแดง แดงเถือก ตาเหลือกตาลายกันเลยทีเดียวสำหรับตลาดหุ้นบ้านเราวันนี้... แค่ประกาศ พรก. ฉุกเฉิน ก็ถึงกับทำให้พี่หรั่งเทขายเป็นวันแรกประมาณ 1.5 พันล้านกันเลยทีเดียว โดยแรงขายหนักๆมาจากพี่กองทุนทั้งหลายครับ ขายได้มันส์มือดีแท้...ที่น่าตกใจคือ รายย่อยอีกแล้วครับ...รับของกลับบ้านนอนฝันดีไปตั้ง 5 พันล้าน...ไม่รู้จะรีบซื้อกันไปทำไม กลัวตกรถ? กลัวไม่ได้ของ? ระวังน่ะครับ..เวลาพี่กองพี่หรั่งทิ้งจริงๆเนี่ยะ เผาราบเป็นหน้ากลอง ไม่มีคำว่าสงสารกันแ่น่นอนครับ...พรุ่งนี้ตลาดอาจจะรีบาวน์ หรือดิ่งต่อ ก็มิอาจจะคาดเดา ก็ต้องดูกันต่อไป สู้เค้า ทาเคชิ!! ^___^

การเทรดวันนี้ ความจริงมีเทรนด์ที่ค่อนข้างชัดเจน..แต่ระหว่างวันนั้น ก็มีอยุ่หลายไม้ที่ทำให้ผมขาดทุนจนต้องเกือบหยุดเทรด แต่ด้วยบารมีของหลวงพ่อที่ช่วยผมไว้ (ตอนเสียเยอะๆเนี่ยะ ต้องถามหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเรียกสมาธิกลับคืนมา ฮ่าๆ) ก็ทำให้สามารถทำกำไรกลับมาได้ประมาณ 18 จุดครับ...เหนื่อยสายตัวแทบขาด กลับบ้านไป คงหลับเป็นตายหมดสภาพจริงๆครับวันนี้..ตลาดแบบนี้ถือว่าสนุกครับ แต่ถ้าผิดทางเนี่ยะ อาจจะเ็ป็นรักสนุก ไม่ผูกพัน แต่จะโดนฟัน เพราะเล่นขาดทุนครับ ฮ่าๆๆๆ

พรุ่งนี้โชคดีครับ

Wednesday, April 7, 2010

Wizard's Road # 41

อัพเดทซะช้าเลยครับวันนี้ พอดีแวะไปสำรวจการชุมนุมตรงสี่แยกราชประสงค์มา...ไม่ได้ลำเอียงน่ะครับ คนมหาศาลจริงๆ แล้วเท่าที่ดูด้วยสายตาแล้ว คนที่เพิ่งเลิกงาน หนุ่มสาวออฟฟิท ก็มากันเยอะมากๆเลยครับ..แบบนี้ก็ไม่รู้ว่าพี่มาร์คจะทำยังไง ประกาศ พรก. ฉุกเฉิน ก็แล้ว ขู่ด้วยกฎหมายก็แล้ว...แต่ถ้าคนยังเยอะแบบนี้อยู่...ยากมากครับที่จะทำอะไรได้...เหนื่อยแทนพี่มาร์คจริงๆ..

กลับเข้าเรื่องหุ้นกับ TFEX กันต่อดีกว่าครับ...วันนี้ตลาดโดยรวมถือว่าเล่นค่อนข้างง่ายในช่วงเช้า แต่เทรดยากมากๆในช่วงบ่าย...โดยเฉพาะเฮีย PTT กับ PTTEP ที่ผลัดกันยกขึ้นบ้างหล่ะ ทุบลงบ้างหล่ะ ไปๆมาๆ จนน่าเวียนหัว...จากกำไรที่ผมควรจะได้ประมาณ 5% ของวงเงิน โดนพี่แกโยกไปมาจนเหลือให้เก็บแค่ประมาณ 3% ครับ...แต่กำไรก็ดีกว่ากำตด กำลม ครับ ฮ่าๆๆ...สนามรบแห่งนี้ ไม่ได้มีแค่วันเดียว จริงมั๊ยครับ...^___^

พรุ่งนี้ผมคาดว่าจะเป็นอีกวันที่จะเทรดกันค่อนข้างยากมากๆเลยทีเดียว เนื่องจากถ้าพี่หรั่งยังดื้อจะซื้ออยู่ ก็จะเจอแรงเทขายต่อเนื่องจาก พี่กองกับรายยุ่ยแน่นอนครับ...ตลาดอาจจะสวิงกิ้งกันจนมึนหัว หรืออาจเทกันไปไหนทิศทางเดียวกันเลยก็ได้ครับ...

โชคดีครับ

Tuesday, April 6, 2010

Wizard's Road # 40

วันนี้ตลาดปิด แต่พอดีเข้าไปอ่าน blog ของพี่ที่ทำงานทีมเดียวกัน แล้วคิดว่ามีประโยชน์สำหรับทุกท่านที่สงสัยเกี่ยวกับรายได้ของ prop trade ที่พวกผมทำกันอยู่ครับ พี่คนนี้เป็นคนจุดประกายแนวคิดการเขียน dialy blog เกี่ยวกับการเทรดของตัวเองครับ ชื่อ Trader's journer หรือ Optionistics หรือ Durahan แห่ง เว็บ Thaigold ครับ

เครดิต http://tradermemory.blogspot.com/

"วันนี้ มีเวลาว่าง
ผมเลยจะพูดถึง รายได้ของ " Proprietary Trader" ให้ฟัง

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า " Holy Grail"
รวมถึงอาจจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า Holy Grail ของสายการเงินก็คือ Proprietary Trader
>> ผมขอตอบดังนี้ครับ ว่ามันจริงหรือไม่

1. รายได้ของ Proprietary Trader >>> unlimited ครับ เเละขึ้นเร็วมาก
จนเเทบไม่อยากจะเชื่อว่ามีอาชีพของสายการเงินที่สามารถสร้างผลตอบเเทนได้ขนาดนี้
รายได้จะไปตามผลงานจริงๆ ( เท่าที่ผมประเมินคร่าวๆ จาก Trader ที่บล ตัวเองเเละบล ที่รู้จัก)

มี 3 กรณีครับสำหรับ Proprietary Trader

1.ไม่รอด
>>> ไม่สามารถสร้างกำไรได้ >>> ไม่นานก็จะต้องออกไป
อาจจะสามารถกลับมาได้ ถ้าหาทางกลับไปฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
ผมเกือบอยู่ในประเภทนี้ เเต่โชคดีที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด

2.อยู่รอดได้เเละทำกำไรเรื่อยๆ
>> รายได้เฉลี่ยต่อเดือนรวมทุกอย่างเเล้วทั้ง Sharing ทั้งโบนัส
หลัง จากการเทรดอยู่ตัว ( คำว่าเทรดอยู่ตัวหมายถึง อายุงานประมาณ 1 ปี & เทรดเเล้วสามารถทำกำไรได้เรื่อยๆ)น่าจะอยู่ราวๆ 50k - 100k (ประเมินคร่าวๆ นะครับ ผมให้เป็น Range กว้างๆ เพราะเเต่ละบริษัทมีนโยบายการจ่ายผลตอบเเทนไม่เหมือนกัน)

3.อยู่รอดได้เเละมีฝีมือ
>> รายได้เฉลี่ยหลังจากการเทรดอยู่ตัวน่าจะอยู่ราวๆ
เฉลี่ย 100K-1,000K ต่อเดือน
เทรดเดอร์ที่ มีรายได้ระดับนี้มีเยอะทีเดียวครับ
เทรดเดอร์บางคนสามารถทำรายได้ ในวันที่มี panic ได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์ เเละ จังหวะเวลาครับ
ผมได้ยินมาว่า การจ่ายตอบเเทนของบาง บล ให้เป็นโบนัสปลายปี
มีเทรดเดอร์บางคนได้โบนัส เทียบเท่าเงินเดือนกว่า 100 เดือน ครับ

มาถึงตรงนี้ อาจจะมีคนถามผมว่า
1.รายได้ระหว่าง Prop Trader Vs นักวิเคราะห์ ใครมีรายได้มากกว่ากัน
2.รายได้ระหว่าง Prop Trader Vs ผู้จัดการกองทุน ใครมีรายได้มากกว่ากัน
ผมไม่ขอตอบ เพราะทุกสายงาน ย่อมมีจุดเด่นเป็นของตนเอง ขึ้นอยู่ว่าเราชอบเเบบไหน

-บางคนอาจจะชอบเป็นเทรดเดอร์อิสระ เเละไม่มีสังกัด
เเบบนั้นก็สามารถสร้างรายได้มหาศาล ได้เช่นกัน
เเต่อาจจะต้องมีระบบที่ดี & ระเบียบวินัยอย่างมหาศาลเลยทีเดียว

จากบทความของผม หวังว่า
น่าจะมีคนหันมาสนใจ ที่จะเข้าสู่เส้นทางของการเป็นเทรดเดอร์กันมากขึ้น
เเล้วเราอาจจะได้พบกันครับ "

ก็หวังว่าบทความนี้ จะมีประโยชน์และคลายข้อสงสัยให้ทุกท่าน ได้ไม่มากก็น้อยน่ะครับ

^____^

Monday, April 5, 2010

Wizard's Road # 39

เปิดมาแล้วสำหรับตลาดหุ้นบ้านเรากับการเทรดวันแรกของสัปดาห์

เป็นไปตามคาดสำหรับ SET ช่วงเช้าที่มีแรงเทขายจน SET ติดลบไปประมาณ 10 จุด...
แต่ทว่า....THE SHOW MUST GO ON.... ซื้อแล้วห้ามหยุด ต่อให้หุ้นร่วง พี่ก็ต้องรับไว้!! ถูกต้องน่ะคร้าบบบ...พี่หรั่งอีกแ้ล้วครับท่าน....ซื้อๆๆๆ แล้วก็ซื้อเข้าไป จนแรงขายที่มีในช่วงเช้าหยุดชะงัก จนต้องกลับมาซื้อไล่กันช่วงบ่าย...สงสัยพี่หรั่งอาจจะมองว่า การเมืองก็ส่วนการเมือง ตราบใดไม่มีการยิงกันเกิดขึ้นจนคนล้มตาย พี่ก็จะขอดัน SET ต่อไป ตามเป้าหมายที่คาดไว้แถวๆ 880 - 900 จุด!! จะบ้าไปกันใหญ่แล้วครับพี่น้องครับ... ^____^

วันนี้เทรนด์การเล่นของตลาดบ้านเราค่อนข้างชัดเจนครับ ขายเปิด ซื้อสาย สบายตัวเลย ^___^

หลังจากที่โดนขาดทุนชุดใหญ่ไปเมื่อวันศุกร์..วันนี้ผลงานเทรดของตัวเองก็ออกมาค่อนข้างดีทีเดียว สามารถ cover losses ที่เสียไปได้มาหมดพร้อมกับกำไรอีกส่วนหนึ่งครับ...ยังไงก็ค่อยมาดูกันว่าตลาดวันพุธจะเป็นอย่างไร ขออย่างเดียวอย่า sideways เื่อื่อยๆ จนเผลอหลับในแล้วกันครับ รับรองสนุกแน่นอน

พรุ่งนี้วันหยุด ก็ขอให้ enjoy กันน่ะครับ

Friday, April 2, 2010

Wizard's Road # 38

หนังสองม้วนในวันเดียวกันครับ T___T'"

เช้าได้ บ่ายเจ๊งครับสำหรับผมวันนี้

ตลาดช่วงเช้ามีเทรนด์ขาลงค่อนข้างชัดเจน จึงเล่นค่อนข้างง่าย แต่กลายเป็นว่าช่วงบ่าย ตลาดเล่นกันมั่วซั่วมากๆเลย โดยเฉพาะ PTT ...ยกไป โยนมา หยั่งกับหุ้นปั่นเลยครับ เหอๆๆๆ ยอมแพ้แต่โดยดีเลยทีเดียว

วันนี้หมดแรง หมดใจ เลยครับ ขอตัวพักยาวดีกว่า หุหุ

Thursday, April 1, 2010

Wizard's Road # 37

แรงจริงๆตลาดหุ้นไทยตอนนี้ ขึ้นไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ฝรั่งก็สะกดเป็นคำเดียวคือ "ซื้อ" และก็ "ซื้อ" ^__^

ตลาดอาทิตย์นี้ ถึงแม้ว่าจะขึ้นแรง แต่ว่าระหว่างวันนั้น เล่นไม่ง่ายเลยสำหรับตัวผมเอง
รูปแบบการเล่นของวันนี้ยังคล้ายกับเมื่อวาน คือ ทำท่าว่าจะทุบหุ้น PTT กับ PTTEP แต่สุดท้ายก็มีการเติม BID ก้อนเบ้อเริ่ม ทำให้ราคา TFEX ผันผวนแรงและเร็วเป็นอย่างมาก --__--"

จากกำไรที่ควรจะได้เยอะๆ กลายเป็นเหลือกำไรแค่นิดเดียว แต่ก็ยังดีกว่าขาดทุนครับ
วันนี้หมดแรง ขอจบแค่นี้ครับ เหนื่อยสุดๆ

พรุ่งนี้ไม่ขออะไร แค่หมั่นไส้ฝรั่ง....SET จงลงแรงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ